Kylian Mbappe คีเลียน เอ็มบัปเป้ ประวัติ ดาวยิง ซุปตาร์ กองหน้าฝรั่งเศส ประธานเป้ แห่ง เปแอสเช
Kylian Mbappe (คีเลียน เอ็มบัปเป้) ดาวยิงสุดโหด จากสโมสร ปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง ใกล้จะหมดยุคของ แมสซี่ และ โรนัลโด้ ไปทุกที วงการฟุตบอลจะหาคนที่เก่ง และ แข็งแกร่งเหมือน 2 คนนี้บอกเลยว่าหาได้ยากมาก กับเด็กที่เกิดมาพร้อมพรสวรรค์ แต่มันไม่ใช่สำหรับเขา คีเลียน เอ็มบัปเป้ เด็กหนุ่มวัย 24 ปี ที่ผลงานเฉิดฉายตั้งแต่วัยเด็ก มีสโมสรยักษ์ใหญ่คอยตามจีบเขา ถึงแม้ว่าเขาจะมีราชาอย่าง โรนัลโด้ เป็นไอดอล แต่พอได้มาลงสนามกันจริงๆ เขาไม่เคยมีความหวาดกลัว เขาพร้อมที่จะชน และ พาตัวเองไปอยู่จุดสูงสุด สำหรับวันนี้ใครที่กำลังหาประวัติของ คีเลียน เอ็มบัปเป้ ห้ามพลาด เพราะเราจะมาบอกเล่าเรื่องราวทั้งหมด
ประวัติของ Kylian Mbappe (คีเลียน เอ็มบัปเป้)
ชื่อ : Kylian Mbappe (คีเลียน เอ็มบัปเป้)
ชื่อเต็ม : Kylian Mbappe Lottin (คีเลียน เอ็มบัปเป้ ลอแต็ง)
เกิดวันที่ : 20 ธันวาคม ค.ศ.1998
เกิดที่ : กรุงปารีส ฝรั่งเศส
ส่วนสูง : 178 เซนติเมตร
คีเลียน เอ็มบัปเป้ เกิดที่เมืองบอมบี ในกรุงปารีส ของประเทศฝรั่งเศส คุณพ่อของเขาเป็นชาว แคเมอรูน ที่ชื่อว่า วิลฟรายด์ เอ็มบัปเป้ ซึ่งเป็นพ่อของเขานั้นเองที่ให้การสนับสนุนลูกชายของตนเอง ในการเป็นนักฟุตบอลเป็นอย่างดี และ ตอนนี้ก็รับหน้าที่เป็นโค้ช และ เอเย่นให้กับ คีเลียน เอ็มบัปเป้ ส่วนคุณแม่ของเขาก็มีดีกรีเป็นถึงนักกีฬา แฮนบอลอาชีพ ของ แอลจีเรีย
ทำให้แม่ของเขาเข้าใจถึงวีถีการเป็นนักกีฬาอาชีพเป็นอย่างดี และ ให้ความช่วยเหลือลูกชายแบบเต็มที่ เอ็มบัปเป้ เติบโตมาโดยเป็นแฟนบอลของ สโมสร เรอัล มาดริด โดยมี คริสเตียโน โรนัลโด้ ดาวเตะของราชันชุดขาวเป็นไอดอล จากการที่เขาได้มีภาพของ โรนัลโด้ อยู่เต็มห้องนอนของตัวเองเต็มไปหมด ในวัยเด็กนั้นได้มีโอกาสครั้งหนึ่งได้วัยเด็กได้ถ่ายรูปคู่กับไอดอลของเขา
สโมสรแรกของ Kylian Mbappe คือ สโมสร A.S.BONDY ซึ่งเป็นสโมสรในระดับท้องถิ่น และ นั่นเป็นที่ ที่เขาเริ่มฉายแววในการเล่นฟุตบอลขึ้นมา ความสามารถของ เอ็มบัปเป้ เรียกได้ว่าเกินกว่าเด็กวัยเดียวกันแบบไม่เห็นฝุ่น ทำให้ เอ็มบัปเป้ ได้เข้าสู่ศูนย์ฝึกเยาวชนอันลือลั่นของประเทศฝรั่งเศส ที่มีประวัติในการสร้างซุปเปอร์สตาร์ชั้นนำ ระดับวงการฟุตบอลฝรั่งเศสมาแล้วมากมาย
การที่ย้ายมาเล่นที่นี่ทำให้เขาพัฒนาฝีเท้าขึ้นไปแบบแรงไม่หยุดฉุดไม่อยู่ เขาได้กลายเป็นดาวเด่นของศูนย์ฝึกเยาวชนแห่งนี้เป็นเวลาอันรวดเร็ว และ นั้นทำให้บันดาเหล่าทีมดังในฝรั่งเศสต่างยื่นขอเสนอเข้ามาให้ เอ็มบัปเป้ เข้ามาพิจารณามากมาย สุดท้าย เอ็มบัปเป้ ในวัยเพียง 14 ปี เลือกที่จะไปอยู่กับ สโมสรโมนาโก
ดาวรุ่งพุ่งแรงจาก สโมสร โมนาโก
โดยการที่เขามาเล่นที่ โมนาโก นั้น เอ็มบัปเป้ เริ่มต้นจากการเล่นให้ทีมเยาวชน ก่อนจะก้าวกระโดดมาเล่นให้ทีมสำรองในเวลาอันรวดเร็ว ความยอดเยี่ยมของเขานั้นกลายเป็นที่พูดถึงมากในวงการฟุตบอลฝรั่งเศส เอ็มบัปเป้ ได้ติดทีมชาติฝรั่งเศส ชุดอายุไม่เกิด 17 ปี โดยตอนนั้นเขาอายุเพียงแค่ 15 ปี เท่านั้น
ซึ่งในเวลาเดียวกัน แคเมอรูน ที่เป็นสัญชาติของคุณพ่อ เอ็มบัปเป้ ก็เล็งที่จะดึงเจ้าหนูคนนี้ไปเล่นให้กับทีมชาติแคเมอรูน เช่นกัน หลังจากที่อยู่ทีมสำรองได้ไม่นาน เอ็มบัปเป้ ก็ได้รับโอกาสขึ้นเล่นให้ทีมชุดใหญ่ จากการสนับสนุนของโค้ชที่ชื่อ เลโอนาร์โด ยาร์ดิม โค้ชชาวโปตุเกส ของ โมนาโก และ ในวันที่ 2 ธันวาคม ปี 2015 เอ็มบัปเป้ ก็ได้ลงสนามให้ทีมชุดใหญ่ของ โมนาโก เป็นครั้งแรก
เกมนั้นเขาลงมาแทนที่ให้กับ ฟาบิโอ โคเอนเทรา แบ็คซ้ายชาวโปตุกีส และ นั้นทำให้ เอ็มบัปเป้ กลายเป็นนักเตะที่มีอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของ สโมสรโมนาโก ด้วยวัยเพียง 16 ปี 17 วัน ทำลายสถิติเดิมของ อ็องรี ถึง 21 ปี
ด้วยสไตล์การเล่นของเขาที่มีทั้งความเร็ว เทคนิคดี แถมยังเป็นนักเตะที่สามารถเล่นได้ทั้งตำแหน่ง ริมเส้น และ กองหน้า ทำให้ เอ็มบัปเป้ ถูกนำไปเทียบกับตำนานอย่าง ตีแยรี อ็องรี ตำนานดาวยิงของทีมฝรั่งเศส เพราะว่าเส้นทางของ 2 คนนี้ คล้ายๆ กัน คือการเป็นเด็กที่ศูนย์ฝึกเดียวกัน ตามด้วยการที่มาอยู่กับ โมนาโก เหมือนกัน และ ยังได้เป้นนักเตะที่มีอายุน้อยที่สุดที่ได้ลงสนามให้กับสโมสร
ในซีซั่นแรกของ เอ็มบัปเป้ บทบาทของเขาจะเป็นเพียงตัวสำรอง โดยเขาลงสนามไปทั้งสิ้น 11 นัด ยิงไป 1 ประตู โดยผลงานของเขาระดับนี้ในช่วงหลังฤดูกาล ทำให้ สโมสรโมนาโก ไม่รอช้าจับ เจ้าหนูเอ็มบัปเป้ เซ็นสัญญาอาชีพกัยสโมสรทันที สัญญายาวไปจนถึงปี 2019 ในช่วงปิดฤดูกาล เอ็มบัปเป้ ได้ติดทีมชาติฝรั่งเศส ในชุดอายุไม่เกิน 19 ปี ทัวร์นาเมนต์นี้ทำให้ เอ็มบัปเป้ แจ้งเกิดแบบเต็มตัว เขายิงให้ทีมไป 5 ประตูในรายการนี้ ช่วงให้ทีมชาติฝรั่งเศสคว้าแชมป์ไปได้ในสมัยที่ 8 โดยเกมที่คนจดจำคือเกมที่เขายิง 2 ประตูสุดยอดที่ประเทศ เยอรมัน ทำให้ตัวของเขามีความมั่นใจมากยิ่งขึ้นในการเล่น และได้รับโอกาสจากสโมสรแบบเต็มตัวในฤดูกาล 2016-2017
ซึ่งมันทำให้ เอ็มบัปเป้ กลายเป็นที่รู้จักไปทั่วทั้งโลก เอ็มบัปเป้ ช่วยให้ โมนาโก ลุ้นแชมป์กับ ปารีส แซ็ง-แฌร์แม็งแบบเต็มตัว ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ ลีกเอิง ถูกมองว่าการที่ ไป เปแอสเช ก็คว้าแชมป์แบบแบเบลอ เช่นเดียวกับในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ที่ โมนาโก กลายเป็นม้ามืดประจำรายการ โดยเฉพาะแมตช์สุดช็อคการเอาชนะทีมยักษ์ใหญ่อย่างทีม แมนเชสเตอร์ซิตี ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่คุมทัพโดย เปป กวาร์ดิโอลา นักซื้อมือทองชาวสเปน
ซึ่งนั้นเป็นครั้งแรกที่ เปป ไม่สามารถนำทีมตนเองไปสู่รอบรองชนะเลิศได้สำเร็จในรายการนี้ได้ โมนาโก ที่มี เอ็มบัปเป้ เป็นตัวหลักในแนวรุก กลายเป็นทีมที่มีสุดยอดเกมรุกของประเทศยุโรป ไล่ทุบสถิติต่างๆ มากมาย และ ผลงานมากมายของเขาทำให้เขาก้าวขึ้นมาติด ทีมชาติฝรั่งเศส ชุดใหญ่ ภายใต้การคุมทัพของ ดีดีเย เดช็อง ซึ่งนั้นทำให้เขาเป็นคนแรกที่ติดทีมชาติชุดใหญ่ด้วยวัยเพียง 18 ปี เอ็มบัปเป้ กลายเป็นดาวรุ่งที่หน้าจับตามองที่สุดของวงการฟุตบอล เขามีทุกอย่างกับการที่จะมาเป็นสุดยอดนักเตะของโลกได้
โชว์ฟอร์มโหดกับ สโมสร ปารีส แซ็ง-แฌร์แม็ง
ด้วยวัยเพียง 19 ปี กับสไตล์การเล่นที่โดดเด่นนี้ ทำให้ เอ็มบัปเป้ มีค่าตัวสูงถึง 216 ล้านยูโร หรือราวๆ แปดพันยี่สิบหกล้านบาทไทย และ ในที่สุดเขาก็ได้ย้ายมาเล่นให้ สโมสร ปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง สัญญาของเขาจะหมดลงในช่วง ค.ศ.2020 เอ็มบัปเป้ เขาเริ่มฉายแววโดดเด่นจาก สโมสรโมนาโก ในลีกเอิงก่อนจะย้ายมาร่วมทีม ปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง และได้แจ้งเกิดก้าวสู่การเป็นผู้เล่นตัวท็อปๆ ระดับโลก ด้วยสถิติการทำประตูมากถึง 76 ประตู ในลีกตลอด 4 ฤดูกาล แถมยังสามารถพาทีมเข้ารอบชิงชนะเลิศรายการ ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ในปี 2020
ตลอดระยะเวลาทั้ง 4 ปีเขาพาทีมคว้าถ้วยรางวัลในประเทศถึง 9 รายการ แต่ด้วยพรสวรรค์นี้ด้วยวัยเพียง 24 ปี แต่ต้องมาสวมปอกแขนของกัปตันทีม ทำให้เขาอาจจะมีอีโก้มากขึ้นด้วยเช่นกัน ทั้งกิริยาที่ทำกับตำนานอย่าง แมสซี่ โดยการเดินชนไหล่ จน แมสซี่ หันมามองด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจ หรือแม้แต่การที่จะไปแย่ง เนย์มาร์ ยิงจุดโทษทำให้ทีม ปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง ยังไม่เข้าล่องเข้าลอยนะ แถมมีข่าวมากมาย เรื่องการที่ 3 แนวหน้าอย่าง เมสซี่ เนย์มาร์ เอ็มบัปเป้ ที่จะแยกสโมสรกัน มารอชมกันได้เลยว่า สโมสรจะมีวิธีแก้ไขอย่างไรกับเรื่องนี้ แต่ยังไงก็ตามฝีมือของ เอ็มบัปเป้ ก็ยังถือเป็นแข้งอันดับต้นๆ ของโลก ที่ในอนาคตจะต้องก้าวขึ้นมาเป็นซุปเปอร์สตาร์อย่างแน่นอน
สร้างประวัติศาสตร์ คว้าแชมป์โลก กับ ทีมชาติฝรั่งเศส
วัย 24 ปี แต่สามารถขึ้นสถานะตำนานของศึกฟุตบอลโลก ทั้งลีลา เทคนิค สไตล์การเล่นบอกเลยว่าโคตรโหด กล้าเล่น กล้าเลี้ยง กล้าเสี่ยง กล้ายิง จังหวะบ้าๆ ไม่มีใครคนไหนในวัย 24 ปี ที่จะบ้าคลั่งบ้าบิ่นไปมากกว่านี้แล้วเขาคว้ารางวัลมากมาย เฉิดฉายตั้งแต่อายุ 19 ปี สายตาของเขาไร้ซึ่งความหวาดกลัวใดๆ และนั้นมันทำให้เขาแจ้งเกิดในโลกฟุตบอลอย่างเป็นทางการนับตั้งแต่วันนั้น ปี 202
ครั้งนี้ถ้าพูดถึงทีมชาติฝรั่งเศสคงต้องยกให้เขาคนนี้ เอ็มบัปเป้ มันเริ่มตั้งแต่นัดเปิดหัว ทัวร์นาเมนต์ ที่ เอ็มบัปเป้ ที่ทั้งยิงและจ่าย เท้าซ้ายวางแบบย้อยๆ ให้ ชิรู สอยหน้าปากประตู ต่อด้วยการเจอกับ เดนมาร์ก เอ็มบัปเป้ ก็แบกทีมหลังแถบหักด้วยการปลดล็อคประตูให้กับทีม ก่อนที่จะพาทีมชาติฝรั่งเศสผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีม และ ในขณะที่เจอ โปรแลนด์ เอ็มบัปเป้ ก็เล่นได้ชิวและสบายเหลือเกิน ด้วยลูกยิงไซค์แบบสวยๆ ทำให้ช็อตนั้นถึงกับต้องตั้งชื่อคลิปว่า โชว์การเล่นของ เอ็มบัปเป้ ฝรั่งเศสผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย ด้วย เอ็มบัปเป้ ที่ลงเล่นเพียง 4 นัด ยิงไป 5 ประตู กับอีก 2 แอสซิสต์ ทำลายสถิติตลอดการณ์ของ เปเล่ ด้วยการเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดยิงได้ 9 ประตู
ในขณะที่อายุไม่เกิน 24 ปี นัดที่เจอกับ โมร็อกโก เอ็มบัปเป้ โชว์กระชากบอลหลบ หาย 2 – 3 คน จนต้องใช้แผนลุมซ้อน ลุมประกบ แต่ก็แถบไม่มีใครหยุดเขาได้จริงๆ จนกระทั่ง เอ็มบัปเป้ เดินทางมาสู่นัดชิงชนะเลิศ ถ้าเขาชนะมันจะเป็นการเปลี่ยนแปลงยุคสมัยแบบแท้จริง ทั้งถ้วยฟุตบอลโลก ทั้งรองเท้าทองคำ ถูกวางไว้ตรงหน้าหลังจากที่ลงเล่น เอ็มบัปเป้ ช่วงครึ่งแรก 80 นาที เขาแถบจะไม่มีบทบาทการเล่นเลย เหมือนเขาได้หายออกไปจากสนาม จนทำให้สกอร์ของทีมห่างออกไปเรื่อยๆ
จนในนาทีที่ 79 เอ็มบัปเป้ ก็ปรากฏตัวเขาได้ยิงจุดโทษให้ทีม กับเวลาที่เหลืออันน้อยนิดไม่ถึง 10 นาที หลังจากที่สกอร์ 2-1 ไม่ถึง 2 นาที จากการยิงจุดโทษก็จัดเสมอไปโดยการเปิดของ เอ็มบัปเป้ เสมอ 2-2 จนมาถึงช่วงต่อเวลาพิเศษ ในขณะที่ฝรั่งเศสกำลังถูกนำ และ กำลังจะแพ้อีกครั้ง และ ความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดี
เขาได้จุดโทษ เอ็มบัปเป้ ก็ไม่พลาดยิงเข้าตะข่ายไปอย่างสวยงาม ทำแฮสทริกค์ไปในนัดชิงชนะเลิศ ถึงแม้ว่าฝรั่งเศสจะไม่ได้คว้าแชมป์โลกถึง 2 สมัย แต่คนทั่วโลกก็พูดถึงเขามากมายมหาสารเหลือเกิน สถิติการเล่นของเขาในวัย 23 ปี ลงเล่น 2 สมัยในบอลโลก และได้คว้าแชมป์มาครอบครองในปี 2018 คว้ารางวัลดาวรุ่งตั้งแต่อายุ 19 ปี ฟุตบอลโลกครั้งที่ 2 ทำสถิติที่ยิงไปได้ถึง 8 ประตู ทำสถิติยิงแฮสทริคในรอบนัดชิงชนะเลิศคนแรก ปิดท้ายด้วยการคว้ารองเท้าทองคำในวัย 23 ปี นี่คือผลงานของเขาแบบแท้จริง บอกเลยว่าโคตรโหด เรามาดูกันว่าในอนาคต เอ็มบัปเป้ จะไปเป็นสุดยอดนักฟุตบอลได้หรือไม่ รอชมกัน
เกียรติประวัติ Kylian Mbappe
สโมสร โมนาโก
-
ลีกเอิง: 2016–2017
สโมสร ปารีส แซ็ง-แฌร์แม็ง
- กุปเดอฟร็องส์ : 2017–2018 , 2019–2020 , 2020–2021
- กุปเดอลาลีก : 2017–2018 , 2019–2020
- ลีกเอิง : 2017–18 , 2018–2019 , 2019–2020 , 2021–2022
- โทรเฟ่ เดส์ ช็องปิยงส์ : 2019 , 2020
ทีมชาติ ฝรั่งเศส
- ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี : 2016
- ฟีฟ่า เวิลด์คัพ : 2018
- ยูฟ่าเนชั่นส์ลีก : 2020–2021
รางวัลส่วนตัว
- ทีมยอดเยี่ยมแห่งทัวร์นาเมนต์ชิงแชมป์ยุโรปรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปีของยูฟ่า : 2016
- ผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของลีกเอิง UNFP : 2018–2019 , 2020–2021 , 2021–2022
- ดาวรุ่งยอดเยี่ยมประจำปีของ ลีกเอิง : 2016–2017 , 2017–2018 , 2018–2019
- ทีมยอดเยี่ยมแห่งปีของลีกเอิง UNFP : 2016–2017 , 2017–2018 , 2018–2019 , 2020–2021 , 2021–2022
- นักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนของ ลีกเอิง UNFP : เมษายน 2017 , มีนาคม 2018 , สิงหาคม 2018 , กุมภาพันธ์ 2019 , กุมภาพันธ์ 2021 , สิงหาคม 2021 , กุมภาพันธ์ 2022 , พฤศจิกายน 2022 , ธันวาคม 2022 , กุมภาพันธ์ 2023
- ทีมยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกประจำฤดูกาล : 2016–2017 , 2019–2020 , 2020–2021 , 2021–2022
- ฟีฟ่า ฟิฟโปร เวิลด์ 11 : 2018 , 2019 , 2022
- โกลเด้นบอย : 2017
- รองเท้าทองคำฟุตบอลโลก FIFA : 2022
- รางวัลฟุตบอลโลก
- ฟีฟ่า เวิลด์คัพ ดรีมทีม : 2018
- โกปา โทรฟี่ : 2018
- ผู้ทำประตูสูงสุดของโลก IFFHS : 2022
- นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของฝรั่งเศส : 2018 , 2019 , 2022
- ทีมยอดเยี่ยมแห่งปีของยูฟ่า : 2018
- ผู้ทำประตูสูงสุดลีกเอิง : 2018–2019 , 2019–2020 , 2020–2021 , 2021–2022
- ผู้ให้การช่วยเหลือสูงสุดในลีกเอิง : 2021–2022
- ผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของ Globe Soccer ปี 2021
- ออนเซ่ เดอ บรอนซ์ : 2019
- รองเท้าทองคำรอบชิงชนะเลิศยูฟ่าเนชั่นส์ลีก : 2021