Fred เฟร็ด ประวัติ มิดฟิลด์แซมบ้า สไตล์ Box to Box ขวัญใจแฟนบอล ปีศาจแดง แมนฯ ยูไนเต็ด
Fred (เฟร็ด) มิดฟิลด์กองกลางตัวตึง ทัพปีศาจแดงแมนฯ ยูไนเต็ด ดาวรุ่งพุ่งแรงผู้ที่ซึ่งไม่เคยท้อถึงแม้ว่าจะมีแรงกดดันและโดนเหยียดเรื่องสีผิวและเชื่อชาติมากซักแค่ไหน แต่ Fred ก็พยายามที่จะพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นตลอดและทุ่มเทให้กับฟุตบอลที่ชื่นชอบ ซึ่งในทุกความพยายามและการทุ่มเทก็ส่งผลให้เขานั้นได้เข้ามายืนเป็นกองกลางตัวจริงให้กับแมนฯ ยูไนเต็ด
ประวัติส่วนตัว Fred
ชื่อเต็ม : Frederico Rodrigue (เฟรเดริโก้ โรดริเกส)
วันเกิด : 5 มีนาคม 2536 (อายุ 30 ปี)
สถานที่เกิด : เบโล โอรีซอนตี ประเทศบราซิล
ความสูง : 1.69 ม. (5 ฟุต 7 นิ้ว)
ตำแหน่ง : กองกลาง
จุดเริ่มต้นของ Fred
เฟร็ด เริ่มต้นการเล่นฟุตบอลในวัยเด็กที่สโมสรท้องถิ่น Atletico Mineiro โดยใช้เวลา 6 ปีก่อนที่จะได้ย้ายไปอยู่กับทีมปอร์โตอเลเกร อีกหนึ่งปีต่อมาก็ได้ย้ายไปอยู่กับ Internacional โดยตอนแรงนั้น Fred ได้ลงเล่นให้กับสโมสรในระดับเยาวชน ซึ่งก็สามารถช่วยทีมให้คว้าแชมป์ได้ 6 รายการ เมื่ออายุได้ 18 ปีก็ได้รับเลือกให้ลงเล่นในระดับอาชีพในวันที่ 26 มกราคม ค.ศ. 2555ในศึกที่พบกับ Ceramica ในลีก Campeonato Gaucho เฟร็ดสามารถยิงประตูแรกในระดับฟุตบอลอาชีพในลีก เซเรียอา ที่พบกับสโมสรเก่าอย่าง Atletico Mineiro โดยรวมแล้ว Fred ประตูไปได้ทั้งหมด 8 ประตูจากการลงเล่น 55 นัด ที่ลงเล่นให้กับอินเตอร์นาซิอองนาล และสามารถแชมป์คว้าคัมเปโอนาโต้ เกาโช่ ได้สองครั้ง
เส้นทางการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ Fred
ต้องบอกเลยว่าเส้นทางการเป็นนักฟุตบอลอาชีพของ Fred นั้นไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะที่ผ่านมานั้นเขาต้องเจอเรื่องมากมาย ซึ่งทำให้เห็นว่าเฟร็ดนั้นมีจิตใจที่เข้มแข็ง ถ้าเป็นคนอื่นอาจจะทนสิ่งที่เข้ามาไม่ไหว หลังจากที่ย้ายมาก็เริ่มทำผลงานออกมาได้ดีขึ้นเลื่อยๆ จึงทำให้สามารถเข้าไปยืนในตำแหน่งตัวจริงได้มาโดยตลอด ซึ่งก็พูดได้ว่า เฟร็ด นั้นเป็นกำลังเสริมทัพทำให้แข็งแกร่งขึ้นในช่วงที่เขาเข้ามาร่วมทีมเพียง 5 ปี ทีมก็สามารถคว้าแชมป์ ไปได้ถึง10โทฟี่ ในปี 2013-2018 ถือว่า 5 ฤดูกาลที่ได้ลงเล่นให้ทีม ชัคตาร์ โดเนตสก์ นั้น สามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมให้กับทีม ซึ่งทำให้เฟร็ดเริ่มเป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียง ด้วยนิสัยที่ชอบมองโลกในแง่ดี รวมถึงฝึกหนักเพื่อพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้นอยู่ตลอด
Fred นั้นจึงถือเป็นนักฟุตบอลดาวรุ่งที่ไปเข้าตาสโมสรยักษ์ใหญ่อย่าง แมนยูไนเต็ด ที่กำลังมองหานักเตะกองกลางดาวเด่นลูกใหม่เข้ามาเสริมทัพให้แข็งแกร่งขึ้น โดยได้ทาบทามเฟร็ดด้วยค่าตัวสูงถึง 52 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 2,300 ล้านบาท จัดว่าเป็นค่าตัวที่สูงมากแต่ด้วยจำนวนค่าตัวที่สูงก็ต้องมากับความคาดหวังที่สูงจากแฟนบอลด้วยเช่นกัน จัดว่าเป็นแรงกดดันที่หนักเอาเรื่องแต่ว่าตัวเขาเองนั้นก็นำเอาแรงกดดันเปลี่ยนมาเป็นความท้าทายเพื่อพัฒนาตัวเองต่อไป ซึ่งถ้าจะให้พูดกันตรงๆ ตัว Fred เองก็ไม่ได้สกิลและทักษะการเล่นที่แพรวพราวอะไร แต่ที่ทำให้เขานั้นต่างจากผู้เล่นคนอื่นก็คือความทุ่มเทเพื่อทีมอย่างเต็มที่เท่าที่จะทำได้ หลังจากการที่ได้ย้ายเข้ามาเล่นให้กับฟุตบอลอังกฤษนั้น ทำให้ต้องฝึกฝนตัวเองมากยิ่งขึ้น ด้วยรูปแบบการเล่นฟุตบอลที่มีความเข้มข้น รวดเร็ว หนักหน่วง กว่าลีกอื่นๆ เฟร็ด จึงต้องใช้เวลาพอสมควรในการปรับตัวให้คุ้นชินกับรูปแบบการเล่นใหม่
แต่แล้วเหตุการณ์ที่เฟร็ดไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อถูกวิจารณ์อย่างหนักจากแฟนบอลเกี่ยวกับรูปแบบการเล่นฟุตบอลที่ถือว่าต่ำกว่ามาตรฐาน โดยหลายคนมองว่าเขานั้นเล่นไม่คุ้มกับค่าตัวที่ได้รับ บางคนก็ว่าฝีมือของเขานั้นยังไม่เหมาะกับการเล่นในลีกใหญ่ๆ ทำให้ Fred กลายเป็นตัวตลกสำหรับทีมตรงข้าม จับบอลพลาด ยิงก็ไม่เข้า ส่งบอลก็ไม่ผ่าน จนได้รับฉายาว่า บราซิลเสินเจิ้น แต่เฟร็ดก็ไม่ย่อท้อกับอุปสรรคในชีวิตและพร้อมก้าวต่อไปด้วยความมุ่งมั่นและทุ่มเทให้มากขึ้น โดยเริ่มฝึกซ้อมหนักขึ้นทุกวันและในความพยายามก็ส่งผล เฟร็ด ได้โชว์ผลงานที่โดดเด่นให้เห็นกันอีกครั้ง โดยสามารถยืนคุมเลนกลางคู่กับ สก็อตต์ แม็กโทมิเนย์ ด้วยฟอร์มการเล่นที่เข้าขากันได้อย่างดี ทำให้รับคำชื่นชมในความมุ่งมั่นและทุ่มเทอย่างหนัก ซึ่งก็ทำออกมาได้ดีทั้งการเชื่อมเกม การเข้าปะทะเพื่อแย่งบอล ต้องนับถือสิ่งที่สำคัญที่สุดคือหัวใจที่สู้ไม่เคยย่อท้อ แต่เขาก็สูงถึงแม้รูปร่างจะเล็กไม่เคยถอยนั้นคือสิ่งสำคัญที่ทำให้ Fred กลับมาท็อปฟอร์มอีกครั้ง
ผลงานการค้าแข้งระดับทีมชาติ
Fred ได้รับการเสนอชื่อเข้าร่วมทีมชาติบราซิลอายุต่ำกว่า 20 ปี 3 ครั้ง ในศึกแข่งขันฟุตบอลเยาวชนชิงแชมป์อเมริกาใต้ 2013 และมีโอกาสเข้าร่วมทีมชาติอายุต่ำกว่า 23 ปี อีก 2 ครั้ง ในเดือนพฤศจิกายน 2558 ซึ่งทั้งสองนัดนั้นเป็นการพบกับทีมชาติอเมริกา เฟร็ด ลงเล่นครั้งแรกให้กับทีมชาติบราซิลเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน ค.ศ. 2557
โดยได้ลงเป็นตัวสำรองในศึกที่พบกับตุรกีในอิสตันบูล โดยเอาชนะไปได้ 4–0 เนื่องจาก ลุยซ์ กุสตาโว มีอาการบาดเจ็บ เฟร็ดจึงได้รับการเสนอชื่อติดทีมชาติบราซิลสำหรับโคปาอเมริกา 2015 ที่ชิลี เริ่มการแข่งขันใน กลุ่ม C สองนัดแรก และได้รับเลือกให้ติดทีมชาติบราซิลชุดอายุต่ำกว่า 23 ปี ในรายการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2016 และก็ได้มีชื่ออยู่ในทีม 23 คนสุดท้าย ในรายการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย แต่ไม่ได้ลงเล่นในทัวร์นาเมนต์นี้ และในปี ค.ศ. 2021 Fred มีรายชื่อเข้าร่วมทีมชาติบราซิลสำหรับรายการแข่งขันโคปาอเมริกาในบ้านเกิด ต่อมา เฟร็ด ก็ได้รับเลือกให้มีรายชื่อติดทีมชาติลงแข่งรางการฟุตบอลโลกปี 2022
เกียรติประวัติและรางวัลส่วนตัวของ Fred เฟร็ด
สโมสร อินเตอร์นาซิอองนาล
- โกโช แชมเปี้ยนชิพ : 2012, 2013
สโมสร ชัคตาร์ โดเนตสก์
- ยูเครนพรีเมียร์ลีก : 2013–2014 , 2016–2017 , 2017–2018
- ยูเครน คัพ : 2017–18
- ยูเครน ซูเปอร์ คัพ : 2013 , 2015
สโมสร แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
- อีเอฟแอลคัพ 2022-2023
รางวัลส่วนตัวของเฟร็ด
- ยูฟ่ายูโรปาลีก ทีมยอดเยี่ยมประจำฤดูกาล: 2019–2020
- รางวัลแชมป์ชุมชน PFA: 2022–2023