คริสเตียโน โรนัลโด Cristiano Ronaldo ประวัติ กองหน้า ดาวยิง ฝีเท้าจัด ระดับตำนาน

คริสเตียโน โรนัลโด (Cristiano Ronaldo) ได้รับการยกย่องว่าเป็นนักฟุตบอลที่เก่งที่สุดคนหนึ่งของโลก ด้วยผลงานที่ผ่านมากว่าสิบปีที่ไม่มีนักฟุตบอลคนที่อาจเทียบได้ กับความสามารถในการทำประตูที่เหนือชั้น ที่เริ่มจากอะคาเดมี่ของสปอร์ติ้ง ไปจนถึงการก้าวขึ้นสู่ผู้เล่นคนสำคัญของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด และเรอัลมาดริด ไปจนถึงการขึ้นเป็นกัปตันทีมชาติโปรตุเกส ซึ่งทำให้เขากลายเป็นผู้เล่นที่มีอิทธิพลมากที่สุดของแฟน ๆ บอล รวมไปถึงเพื่อนนักฟุตบอลด้วยกันที่มองเขาเป็นแรงบันดาลใจ

ประวัติส่วนตัว คริสเตียโน โรนัลโด

ชื่อเต็ม : Cristiano Ronaldo (คริสเตียโน โรนัลโด)

วันเกิด : 5 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1985

สถานที่เกิด : ฟุงชาล มาเดรา โปรตุเกส

ความสูง : 1.87 m (6 ft 2 in)

ตำแหน่ง : กองหน้า

เกิดวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 1985 ในเมืองฟุงชาล เมืองมาเดรา ประเทศโปรตุเกส เป็นเมืองเกาะเล็ก ๆ ที่อยู่ทางตะวันตกของประเทศ เขาเป็นลูกคนที่ 4 ของมาเรีย โดโลเรส ดอส ซานโตส และโฮเซ่ ดินิส อเวโร ซึ่งได้ตั้งชื่อของเขาตาม โรนัล เรแกน หนึ่งในนักแสดงคนโปรดของพ่อที่มีอาชีพเป็นคนสวน ส่วนแม่ของเขาที่ทำงานเป็นแม่ครัว โรนัลโดเคยถูกไล่ออกจากโรงเรียนหลังจากมีเรื่องทะเลาะวิวาทด้วยการโยนเก้าอี้ใส่ครู เขานักฟุตบอลที่มีพรสวรรค์อย่างมาก ได้เล่นกับสโมสร Andorinha ตั้งแต่อายุ 8 ปี และได้ตัดสินใจที่จะเป็นนักฟุตบอลระดับอาชีพในวัย 14 ปี

โรนัลโดเป็นนักเตะเจ้าเสน่ห์ที่ให้เห็นก็อยากจะเข้าหา ซึ่งปัจจุบันเขาเคยมีความสัมพันธ์กับนางแบบชื่อดังมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เจมม่า แอตกินสัน หรือ อลิซ กู๊ดวิน ที่เป็นนางแบบชาวอังกฤษทั้งคู่ โดยมีลูกชายคนแรกในปี 2010 ชื่อคริสเตียโน แต่ก็ไม่เคยบอกว่าใครเป็นแม่ของลูกชายของเขา ต่อมากได้มีความสัมพันธ์กับนางแบบสาวชาวรัสเซีย อิรินา เชค ใช้เวลาด้วยกันกว่า 5 ปี นับตั้งแต่ปี 2010 – 2015

คริสเตียโน โรนัลโด ผลงานใน สปอร์ติ้ง ลิสบอน

ก่อนที่จะได้กลายเป็นนักเตะคนสำคัญของแมนเชสเตอร์ โรนัลโดได้เล่นให้กับสปอร์ติ้ง ลิสบอน ในปี 2003 ในวัย 18 ปี ที่ได้เล่นให้กับสโมสรในทุกรุ่น ตั้งแต่ U16, U17, U18, ทีม B ไปจนถึงทีมชุดใหญ่ ก่อนที่จะได้เล่นในระดับอาวุโสในปี 2002 ทำผลงานแรก 2 ประตู ในรายการใหญ่ ทำให้เขากลายเป็นที่จับตามองของสโมสรดัง ๆ มากมาย โดยเฉพาะอย่างลิเวอร์พูล อาร์เซนอล และที่ขาดไม่ได้คือแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ที่ต่างพากันแย่งตัวนักเตะหนุ่มในตอนนั้น

ผลงาน คริสเตียโน โรนัลโด ในแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ผลงานที่ผ่านมาของของโรนัลโด ทำให้ทางสโมสรคาดหวังในตัวเขาอย่างมาก และโรนัลโดก็ได้แสดงทักษะจนเป็นที่ยอมรับของผู้จัดการทีมระดับตำนานอย่าง Alex Ferguson เขาใช้เวลากว่า 6 ปี ในการพัฒนาทักษะการเล่นให้เก่งขึ้น โดยเฉพาะการเล่นในตำแหน่งปีกที่ต้องพยายามทำประตู และคอยหาจังหวะทำเกมให้กับเพื่อนร่วมทีม เรียกได้ว่าผลงานของเขาไม่ทำให้แฟน ๆ ผิดหวัง หลังจากแสดงผลงานในการแข่ง FA Cup รอบชิงชนะเลิศในปี 2004 ทำผลงาน 3 ประตู ช่วยทีมคว้าแชมป์ได้สำเร็จ

ในปี 2008 ได้เซ็นสัญญา 5 ปี เป็นเงินมูลค่ากว่า 31 ล้านปอนด์ กลายเป็นนักเตะที่ได้คว้ารางวัลฟีฟ่า เวิลด์ ออฟ เดอะ เยียร์ หลังจากได้ช่วยพาแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 3 สมัย หลังจากที่อยู่กับแมนเชสเตอร์มาได้หลายปี โรนัลโดก็ได้สร้างผลงานให้กับสโมสรมากมาย และกลายเป็นผู้เล่นคนสำคัญที่มีค่าตัวแพงที่สุดในโลก ก่อนที่จะได้ย้ายไปเล่นให้กับทางเรอัล มาดริด

Cristiano Ronaldo ผลงานใน เรอัล มาดริด

การมาของโรนัลโดช่วยให้ เรอัล มาดริด สามารถเข้าสู่ยุครุ่งเรืองอีกครั้ง หลังจากที่เขาได้ช่วยทีมคว้าแชมป์มากมาย อีกทั้งยังได้เป็นกัปตันทีมชาติโปรตุเกส พาทีมชาติเข้าสู่รอบรองชนะเลิศในการแข่ง European Championships ในปี 2012 อีกด้วย นอกจากนี้ยังได้รับรางวัลอีกมากมาย ที่ทำให้โรนัลโดกลายเป็นนักฟุตบอลที่มีชื่อเสียง และแฟนบอลเยอะที่สุดในโลก หลังงานฉลองครบรอบ 100 ปี ที่จัดขึ้นในปี 2015 เขาเป็นเพียงนักฟุตบอลเพียงคนเดียวที่เคยได้รับรางวัล European Golden Shoe มากถึง 4 ครั้ง

ผลงานในทีมชาติโปรตุเกสของ Ronaldo

ปี 2003 โรนัลโดได้ถูกคัดเลือกเข้าทีมชาติโปรตุเกสด้วยวัย 18 ปี กลายเป็นนักเตะสัญชาติโปรตุเกสที่ทำประตูได้มากสุด 130 ประตู โดยประตูแรกเกิดขึ้นในการแข่ง UEFA Euro 2004 ที่ได้พาทีมเข้ารอบรองชนะเลิศ และร่วมเล่นในการแข่งสำคัญมากกว่า 7 รายการ ตั้งแต่การแข่ง UEFA European Championship จำนวน 4 รายการ และ FIFA World Cups อีก 3 รายการ กลายเป็นนักฟุตบอลคนแรกที่สามารถทำประตูในการแข่งระดับนานาชาติได้มาถึง 50 ประตู ขึ้นแท่นนักเตะที่ทำประตูได้สูงสุดตลอดกาล

เขาใช้เวลา 5 ปี ในการขึ้นมาเป็นกัปตันทีมของโปรตุเกสในปี 2008 ได้พาทีมเข้าสู่รอบรองชนะเลิศการแข่ง Euro 2012 และในปี 2014 โรนัลโดได้ผลงานอีก 23 ประตู กลายเป็นนักฟุตบอลที่ทำประตูได้สูงสุดของ UEFA European Championship ต่อมาในปี 2016 ก็ได้เป็นผู้เล่นที่ทำผลงานได้ดีที่สุดในฤดูกาล และยังเป็นผู้เล่นคนแรกที่สามารถทำประตูในรอบชิงชนะเลิศได้ถึง 4 ครั้ง เท่ากับสถิติตลอดกาลของมิเชล พลาตินี ด้วยการยิงประตูมากที่สุดในการแข่งขัน ในปี 2017 โรนัลโด้ได้รับรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของฟีฟ่า 2016 นับเป็นครั้งที่ 4 ติดต่อกัน โดยเอาชนะลิโอเนล เมสซี และได้เคยพูดเอาไว้ว่า “ปี 2016 เป็นปีที่ดีที่สุดในอาชีพของผม”

เกียรติประวัติ คริสเตียโน โรนัลโด

แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด

  • พรีเมียร์ลีก : 2006–2007, 2007–2008, 2008–2009
  • เอฟเอคัพ : 2003–2004
  • ลีกคัพ : 2005–2006, 2008–2009
  • เอฟเอคอมมูนิตีชีลด์ : 2007
  • ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก : 2007–08
  • ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก : 2008

เรอัลมาดริด

  • ลาลิกา : 2011–2012, 2016–2017
  • โกปาเดลเรย์ : 2010–2011, 2013–2014
  • ซูเปร์โกปาเดเอสปัญญา : 2012, 2017
  • ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก : 2013–2014, 2015–2016, 2016–2017, 2017–2018
  • ยูฟ่าซูเปอร์คัพ : 2014, 2017
  • ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก : 2014, 2016, 2017

ยูเวนตุส

  • เซเรียอา : 2018–2019, 2019–2020
  • ซูแปร์โกปปาอีตาเลียนา : 2018, 2020
  • โกปปาอีตาเลีย : 2020–2021

อันนัศร์

  • อาหรับคลับแชมเปียนส์คัพ: 2023

ทีมชาติ โปรตุเกส

  • ฟุตบอลโลก อันดับ 4 : 2006
  • ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ชนะเลิศ : 2016
  • ยูฟ่าเนชันส์ลีก ชนะเลิศ : 2018–2019